top of page
Business meeting

The Growth Journal

ถ้าเลือกผิดคุณเสียคนหนึ่ง แต่ถ้าเลือกถูกคุณได้ทีมทั้งทีม

  • รูปภาพนักเขียน: MC Team
    MC Team
  • 10 ก.ย.
  • ยาว 1 นาที
The image shows an iceberg model of employee performance and potential
Iceberg model แสดงผลงานพนักงานที่มองเห็นได้ และศักยภาพในอนาคตที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ เช่น ความเป็นผู้นำ การเติบโต และความสำเร็จระยะยาว


การตัดสินใจเลื่อนตำแหน่ง (Promotion) เป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญและมีความเสี่ยงสูงที่สุดในองค์กร เพราะการแต่งตั้งผู้นำหรือผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เหมาะสม ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของทีม แต่ยังบั่นทอนขวัญกำลังใจ และอาจนำไปสู่วิกฤตการบริหารในระยะยาว

ที่ผ่านมา องค์กรส่วนใหญ่มักใช้เกณฑ์หลักในการโปรโมตคือ "ผลการปฏิบัติงานในปัจจุบัน" (Current Performance) และ "ความอาวุโส" ซึ่งนำไปสู่กับดักที่เรียกว่า "The Peter Principle" กล่าวคือ เราโปรโมตพนักงานไปจนถึงระดับที่พวกเขาไร้ความสามารถ เพราะทักษะที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในงานปัจจุบัน ไม่ใช่ทักษะเดียวกับที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในระดับถัดไป:


ตัวอย่างเช่น พนักงานขายที่ปิดการขายเก่งที่สุด อาจไม่ได้มีทักษะในการโค้ชหรือบริหารทีมขายที่ดีที่สุดเสมอไป


Pain Point ของการโปรโมตหรือเลื่อนตำแหน่งแบบเดิม

กระบวนการเลื่อนตำแหน่งที่ขาดข้อมูลเชิงลึกมักก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้:

  • การตัดสินใจบนพื้นฐานของอคติ (Bias-Driven Decisions): การพึ่งพาความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว (Favoritism) ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม และบั่นทอนความเชื่อมั่นในระบบการเติบโตขององค์กร

  • ขาดการประเมินศักยภาพในอนาคต (Lack of Potential Assessment): การมุ่งเน้นที่ผลงานในอดีตเพียงอย่างเดียว ทำให้มองข้ามความสามารถในการรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนขึ้นในอนาคต

  • มองข้าม "ช้างเผือก" (Overlooking "Hidden Gems"): พนักงานที่มีศักยภาพสูงแต่อาจไม่ได้มีโอกาสแสดงผลงานที่โดดเด่นในบทบาทปัจจุบัน มักถูกมองข้าม

  • ความล้มเหลวของผู้นำใหม่ (New Leader Failure): การโปรโมตคนที่ยังไม่พร้อม ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับความกดดันและล้มเหลว ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงสำหรับทั้งตัวพนักงานและองค์กร


Psychometric Test: เครื่องมือสร้างความชัดเจนในการโปรโมตหรือเลื่อนตำแหน่ง

Psychometric Test หรือ "แบบประเมินศักยภาพ" คือเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เข้ามาปิดช่องว่างนี้ โดยการให้ข้อมูลที่เป็นกลาง (Objective Data) เกี่ยวกับคุณลักษณะที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในบทบาทที่สูงขึ้น

หัวใจสำคัญของการใช้เครื่องมือนี้ในการโปรโมตคือ การเปลี่ยนจุดโฟกัสจาก Performance (ผลงานปัจจุบัน) ไปสู่ Potential (ศักยภาพในอนาคต)

โดยแบบประเมินจะช่วยให้เราเข้าใจมิติที่สำคัญดังนี้:


  1. ความสามารถในการคิดเชิงกลยุทธ์ (Cognitive Abilities & Strategic Thinking): เมื่อตำแหน่งสูงขึ้น ความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อน การเชื่อมโยงข้อมูล และการวางแผนระยะยาวมีความสำคัญมากขึ้น แบบทดสอบความถนัดทางปัญญาจะช่วยประเมินว่าบุคคลนั้นมีความสามารถในการคิดในระดับที่ตำแหน่งใหม่ต้องการหรือไม่

  2. รูปแบบความเป็นผู้นำและบุคลิกภาพ (Leadership Style & Personality): แบบประเมินบุคลิกภาพ (เช่น โมเดล Big Five หรืออื่นๆ ที่ได้มาตรฐานสากล) ช่วยคาดการณ์พฤติกรรมในการทำงานภายใต้ความกดดัน รูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แรงจูงใจในการเป็นผู้นำ และความสามารถในการปรับตัว (Resilience) ซึ่งเป็นปัจจัยชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญของผู้นำ

  3. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence - EQ): ในหลายๆ สถานการณ์ของผู้นำ EQ มักเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งกว่า IQ แบบประเมินช่วยวัดความสามารถในการตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Awareness) การบริหารจัดการอารมณ์ และการเข้าใจผู้อื่น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง

  4. ความคล่องตัวในการเรียนรู้ (Learning Agility): ในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย คือตัวทำนายศักยภาพที่ดีที่สุด แบบประเมินสามารถช่วยระบุได้ว่าใครมีแนวโน้มที่จะเติบโตและรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ได้ดีกว่า


ประโยชน์เชิงกลยุทธ์ในการนำมาใช้

การนำ Psychometric Test มาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการโปรโมตจะมอบประโยชน์ดังนี้:


  • ความโปร่งใสและเป็นธรรม: สร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานว่าการตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นกลางและมาตรฐานเดียวกัน

  • ความแม่นยำที่สูงขึ้น: เพิ่มโอกาสในการเลือกคนที่เหมาะสมและพร้อมสำหรับบทบาทใหม่ ลดความเสี่ยงจากการแต่งตั้งที่ผิดพลาด

  • การวางแผนพัฒนาที่ตรงจุด: ผลการประเมินช่วยระบุช่องว่าง (Gap) ที่พนักงานต้องพัฒนาก่อนเข้ารับตำแหน่งใหม่ ทำให้เราสามารถเตรียมความพร้อม (เช่น ผ่านการ Coaching หรือ Mentoring) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สร้าง Talent Pipeline ที่แข็งแกร่ง: ช่วยให้องค์กรสามารถระบุกลุ่มพนักงานที่มีศักยภาพสูง (High Potential Pool) ได้อย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสืบทอดตำแหน่งในอนาคต


ข้อควรปฏิบัติเพื่อความสำเร็จ

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า Psychometric Test ไม่ใช่ "ลูกแก้ววิเศษ" แต่เป็น "ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ" ที่ทรงพลัง ควรใช้ร่วมกับวิธีการประเมินอื่นๆ เช่น การสัมภาษณ์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Interview) และการประเมินผลงานที่ผ่านมาเสมอ และที่สำคัญ การแปลผลต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรอง (Certified) เพื่อให้แน่ใจว่าเราใช้ข้อมูลอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์



การลงทุนในกระบวนการเลื่อนตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพ คือการลงทุนในอนาคตขององค์กร การนำ Psychometric Test มาใช้ เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าองค์กรให้ความสำคัญกับการเติบโตของพนักงานบนพื้นฐานของศักยภาพที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ผลงานในอดีตหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อให้มั่นใจว่าเรากำลังสร้างทีมผู้นำที่พร้อมจะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page