top of page
Sky

MC Blog

Writer's pictureM.I.S.S. CONSULT

Breaking The Glass Ceiling: เส้นทางสู่การเป็นผู้นำของผู้หญิง




ในการก้าวไปสู่ความเท่าเทียมทางเพศ การทลาย "เพดานกระจก" หรือ “The Glass Ceiling” คือ หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่ผู้หญิงต้องเผชิญอย่างต่อเนื่อง — มันคืออุปสรรคและความลำเอียงที่มองไม่เห็นซึ่งป้องกันไม่ให้พวกเขาก้าวไปยังตำแหน่งสูงสุดในอาชีพ โดยเฉพาะในบทบาทการเป็นผู้นำ ถึงแม้ว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ทางขึ้นสู่จุดสูงสุดนั้นยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับหลายๆ คน บทความนี้จะพาไปสำรวจเส้นทางของผู้หญิงในบทบาทผู้นำ อุปสรรคที่ยังคงอยู่ และเหตุผลว่าทำไมการทลายอุปสรรคเหล่านี้จึงสำคัญต่อการเติบโตของรุ่นต่อไป


ภาพรวมของผู้หญิงในบทบาทผู้นำ


ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นผู้หญิงมีบทบาทผู้นำเพิ่มขึ้นในหลายภาคส่วน ตั้งแต่ธุรกิจและการเมืองไปจนถึงวิทยาศาสตร์และศิลปะ ผู้หญิงได้แสดงบทบาทการเป็นผู้นำที่มีความมุ่งมั่น สร้างสรรค์ และมีความเข้าอกเข้าใจ บุคคลที่โดดเด่น เช่น “อังเกลา เมอร์เคิล” อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี และ “อินทรา นูยี” อดีต CEO ของ PepsiCo ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้หญิงมีความสามารถในการนำพาองค์กรขนาดใหญ่และแม้แต่ประเทศสู่ความสำเร็จ อย่างไรก็ดี แม้จะมีผู้หญิงหลายคนที่เป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชมในบทบาทผู้นำ แต่ยังคงมีส่วนร่วมน้อยในตำแหน่งสูงสุดของวงการธุรกิจและการเมืองทั่วโลก

รายงานจาก World Economic Forum ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงยังครองตำแหน่งระดับสูงในอัตราที่ต่ำ และช่องว่างเพศในบทบาทผู้นำยังกว้าง ปัจจัยที่นำไปสู่ความไม่สมดุลนี้ครอบคลุมตั้งแต่ค่านิยมทางสังคม อคติที่มีต่อผู้หญิง ไปจนถึงอุปสรรคภายในโครงสร้างขององค์กรเอง


อุปสรรคในการก้าวข้ามขีดจำกัดที่มองไม่เห็น (Overcome The Glass Ceiling)


การก้าวขึ้นสู่บทบาทผู้นำสำหรับผู้หญิงนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรค หนึ่งในอุปสรรคที่สำคัญ คือ "อคติ" ที่สงสัยในความเหมาะสมของผู้หญิงในการเป็นผู้นำ ซึ่งไม่เพียงทำลายความมั่นใจ แต่ยังกระทบต่อการตัดสินใจในการจ้างงานและโอกาสในการเลื่อนขั้น ประกอบกับความท้าทายจากการรับบทบาทหลายอย่าง ทั้งในฐานะสมาชิกครอบครัวและผู้ดูแล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโอกาสในการพัฒนาอาชีพ


อีกหนึ่งอุปสรรคที่สำคัญ คือ "การขาดการสนับสนุนจากพี่เลี้ยงและเครือข่ายวิชาชีพสำหรับผู้หญิง" การมีพี่เลี้ยงมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตในอาชีพ พร้อมทั้งให้คำปรึกษา การสนับสนุน และการเข้าถึงเครือข่ายวิชาชีพ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงมักจะพบว่ามีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากพี่เลี้ยงน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนที่ผู้ชายครองเสียงส่วนใหญ่ ทำให้ยากต่อการก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพได้อย่างเต็มศักยภาพ


ความสำคัญของการทลายเพดานกระจก (Break The Glass Ceiling)


การขจัดเพดานกระจกมีความสำคัญ ไม่เพียงเพื่อความยุติธรรมและความเท่าเทียมเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดศักยภาพสูงสุดของทรัพยากรมนุษย์ ความเกื้อกูลในมุมมอง แนวคิด และวิธีการแก้ไขที่หลากหลายนั้นเป็นตัวขับเคลื่อนการสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิผลในกระบวนการตัดสินใจ ด้วยเหตุนี้ เมื่อผู้หญิงได้รับบทบาทในการเป็นผู้นำ พวกเขามักจะนำเสนอนโยบายและโครงการที่สนับสนุนประโยชน์ของทุกคนในองค์กร อาทิ การส่งเสริมสภาพการทำงานที่มีความยืดหยุ่นและการสนับสนุนสิทธิในการลาคลอด


นอกจากนี้ การเพิ่มจำนวนผู้หญิงในบทบาทผู้นำยังเป็นแหล่งแรงบันดาลใจให้กับรุ่นถัดไป การเห็นผู้หญิงในในบทบาทสำคัญช่วยท้าทายความคิดเห็นเดิมๆ และขยายขอบเขตของความเป็นไปได้สำหรับเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย สนับสนุนการสร้าง Culture ที่ให้คุณค่าและส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ


ก้าวไปข้างหน้า


เพื่อขจัด Glass Ceiling จำเป็นต้องมีการพยายามร่วมกันจากทั้งบุคคล องค์กร และหน่วยงานราชการ โดยการใช้นโยบายที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ เช่น การให้ค่าตอบแทนอย่างเท่าเทียม การจัดโปรแกรมพัฒนาผู้นำสำหรับผู้หญิง และการนำเสนอเงื่อนไขการทำงานที่มีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ การลดอคติ การส่งเสริมโอกาสในการมีพี่เลี้ยงและการสร้างเครือข่ายสนับสนุนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถของผู้หญิงในการก้าวขึ้นสู่บทบาทผู้นำและประสบความสำเร็จ


ขณะที่สังคมเดินหน้าพัฒนา "ความหวัง" ที่เรามี คือ Glass Ceiling จะเป็นเพียงบทบาทในอดีต ในระหว่างนี้ การรณรงค์เพื่อสิทธิเท่าเทียมทางเพศในบทบาทผู้นำยังคงต้องดำเนินต่อไป “ทุกครั้งที่เราทลายอุปสรรคลง เท่ากับ ก้าวหนึ่งที่เราเคลื่อนไปใกล้โลกที่ความเป็นผู้นำและความสำเร็จไม่ถูกจำกัดด้วยเพศ”


Commentaires


bottom of page